“กุนโดกัน” เหมายิงไม่จับ! แมนฯ ซิตี้ ทุบ แมนฯ ยูไนเต็ด 2-1 ซิวเอฟเอ คัพ สมัยที่ 7

“กุนโดกัน” เหมายิงไม่จับ! แมนฯ ซิตี้ ทุบ แมนฯ ยูไนเต็ด 2-1 ซิวเอฟเอ คัพ สมัยที่ 7

การแข่งขันฟุตบอลเอฟเอ คัพ อังกฤษ 2022/23 นัดชิงชนะเลิศ ที่สนามเวมบลีย์ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

เกมนี้ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ด้วยที่สองทีมจากเมืองแมนเชสเตอร์ต้องมาดวลกันในรอบนี้วันนี้ฝั่งสีฟ้าใช้แผน 3-2-4-1 เออร์ลิง ฮาลันด์ ค้ำหน้าเป้า แบร์นาร์โด ซิลวา, แจ็ค กรีลิช และ เควิน เดอ บรอยน์ คอยสนับสนุน ด้านทีมสีแดงมาในระบบ 4-2-3-1 เจดอน ซานโช, คริสเตียน เอริกเซน, บรูโน แฟร์นันเดส และ มาร์คัส แรชฟอร์ด นำทัพในแนวรุก

เริ่มเกมมาได้แค่ 13 วินาที แมนฯ ซิตี้ ขึ้นนำ 1-0 อิลคาย กุนโดกัน ได้ซัดด้วยขวานอกกรอบเขตโทษแบบไม่ต้องจับส่งลูกบอลพุ่งตุงตาข่าย ชนิดที่ ดาบิด เด เคอา นายด่านของ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้แต่ใช้สายตาป้องกันประตูที่เร็วสุดในประวัติศาสตร์เอฟเอ คัพ นัดชิงชนะเลิศลูกนี้

นาที 33 สกอร์ขยับเป็น 1-1 อารอน วาน บิสซากา โหม่งตั้งในเขตโทษไปสะกิดโดนมือ แจ็ค กรีลิช ผู้ตัดสิน พอล เทียร์นีย์ ไปดู VAR แล้วชี้เป็นจุดโทษ ก่อน บรูโน แฟร์นันเดส สังหารไม่พลาด

ข่าวกีฬา

จบครึ่งแรก ทั้งสองทีมเสมอกันอยู่ 1-1

ครึ่งหลัง นาทีที่ 51 จากลูกฟรีคิกริมสนามฝั่งขวา เควิน เดอ บรอยน์ โยนมาบริเวณนอกกรอบเขตโทษให้ อิลคาย กุนโดกัน ยิงไม่จับด้วยเท้าซ้ายบอลเด้งพื้นสองจังหวะเข้าประตูไปให้ แมนฯ ซิตี้ ขึ้นนำอีกครั้ง 2-1

ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-1

จากชัยชนะนัดนี้ ทำให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ผงาดคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ เป็นสมัยที่ 7 และยังอยู่บนเส้นทางลุ้นทริปเปิลแชมป์ต่อไป โดยเหลือนัดชิงชนะเลิศยูฟา แชมเปียนส์ ลีก กับ อินเตอร์ มิลาน ในช่วงสุดสัปดาห์หน้า

แนะนำข่าวกีฬาเพิ่มเติม : วิเคราะห์จุดแข็ง-เหมาะไหม คิม มิน-แจ มาเล่นให้ แมนยู

วิเคราะห์จุดแข็ง-เหมาะไหม คิม มิน-แจ มาเล่นให้ แมนยู

วิเคราะห์จุดแข็ง-เหมาะไหม คิม มิน-แจ มาเล่นให้ แมนยู

เหมาะไหมมาเล่นให้ แมนฯ ยูไนเต็ด-จุดแกร่งตรงไหน? ทำความรู้จัก คิม มิน-แจ เซนเตอร์แบ็กทีมชาติเกาหลีใต้ ให้มากขึ้น หลัง “ปีศาจแดง” สนดึงมาเสริมทัพ

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตกเป็นข่าวว่า เล็งที่จะคว้าตัว  คิม มิน-แจ ปราการหลังคนเก่งของ นาโปลี แชมป์ กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี มาเข้าถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด หลังจาก เอริค เทน ฮาก กุนซือชาวดัตช์ ต้องการเสริมแนวรับเพื่อลุ้นแชมป์อย่างเต็มตัวในฤดูกาลหน้า มิน-แจ เป็นใครมาจากไหน มีสไตล์การเล่นและจุดแกร่งตรงไหนนี่คือคำตอบ

ประวัติ

วันเดือนปี: 15/11/1996 (อายุ 26)

ตำแหน่ง: เซนเตอร์แบ็ก

เท้าถนัด: ขวา

ส่วนสูง: 1.90 เมตร (6ฟุต 2นิ้ว)

เส้นทางฟุตบอล

มิน-แจ เริ่มต้นเส้นทางสายลูกหนังกับสโมสร คยองจู เมื่อปี 2016 ก่อนที่ปีต่อมาจะย้ายไปเล่นให้ ชนบุค ฮุนได มอเตอร์ส และโยกซบ ปักกิ่ง กั๋วอัน ปี 2019

จากนั้นในปี 2021 มิน-แจ ก็มีโอกาสได้มาค้าแข้งในยุโรป หลัง เฟเนร์บาห์เช่ ทีมดังในลีกตุรกี จ่ายเงิน 3 ล้านยูโร (ประมาณ 108 ล้านบาท) ซื้อมาจาก ปักกิ่ง กั๋วอัน ก่อนมาอยู่กับ นาโปลี เมื่อปีที่แล้ว ด้วยค่าตัว 18 ล้านยูโร (ประมาณ 648 ล้านบาท)

ข่าวกีฬา

ผลงานกับ นาโปลี

มิน-แจ เป็นกำลังสำคัญที่ช่วยให้ นาโปลี คว้าแชมป์ กัลโช่ เซเรีย อา ฤดูกาลนี้ และได้ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงในลีกไปถึง 33 จาก 35 นัด

จาก 35 เกมที่ นาโปลี ลงเล่นในลีกซีซั่นนี้ ทีมเพิ่งเสียไปแค่ 25 ประตูเท่านั้น และ มิน-แจ ก็เป็นหัวใจในแนวรับหลังเล่นได้อย่างแข็งแกร่ง รวมทั้งขึ้นไปทำประตูได้สองลูกด้วย

ค่าตัว

ปราการหลังโสมขาววัย 26 ปี มีค่าฉีกสัญญาอยู่ที่ 50 ล้านยูโร (ประมาณ 1,800 ล้านบาท) ซึ่งจะมีผลในเดือนกรกฎาคมนี้ และ นาโปลี ก็กำลังพยายามจับนักเตะต่อสัญญาให้ได้

นาโปลี คว้าตัว มิน-แจ มาจาก เฟเนร์บาห์เช่ เมื่อปีที่แล้ว ด้วยสัญญาเป็นระยะเวลา 3 ปี พร้อมออปชั่นขยายเพิ่มอีก 2 ปี เพื่อเข้ามาทดแทน คาลิดู คูลิบาลี่ ที่ย้ายไปอยู่กับ เชลซี

จุดแข็ง

มิน-แจ เป็นกองหลังที่สมบูรณ์แบบ มีทุกอย่างที่ต้องการจากเซนเตอร์แบ็กในยุคปัจจุบัน และจุดแข็งที่สุดอย่างหนึ่งของเขาคือความสามารถในการครองบอล ซึ่งสำคัญสำหรับผู้เล่นทุกคนในระบบของ เทน ฮาก ทำให้เหมาะมากที่จะมาเล่นให้ แมนฯ ยูไนเต็ด

ใน เซเรีย อา ฤดูกาลนี้ ดาวเตะโสมขาวมีค่าเฉลี่ยพาบอลบุกขึ้นหน้าไปเองอยู่ที่ 4.97 ครั้งต่อเกม ขณะที่การผ่านบอลทั้งระยะใกล้และระยะใกลก็ทำได้เยี่ยมเช่นกัน

นอกจากนั้น ลูกกลางอากาศของ มิน-แจ ก็มีความโดดเด่นเช่นกัน โดยชนะดวลลูกกลางอากาศ 64 เปอร์เซ็นต์ และชนะลูกดวลภาคพื้นดิน 61 เปอร์เซ็นต์

เหมาะกับ แมนฯ ยูไนเต็ด แค่ไหน

ในฤดูกาลนี้หากไม่มีอาการบาดเจ็บรบกวน แมนฯ ยูไนเต็ด จะให้ ราฟาแอล วาราน กับ ลีซานโดน มาร์ตีเนซ เป็นคู่เซนเตอร์แบ็กตัวหลัก

ขณะที่ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ พร้อมเป็นตัวสำรอง ส่วน แฮร์รี่ แม็กไกวร์ กัปตันทีมอนาคตยังไม่แน่นอนว่าจะได้อยู่เล่นให้ “ปีศาจแดง” ต่อไปหรือไม่ในฤดูกาลหน้า

แมนฯ ยูไนเต็ด สมควรไปดึง มิน-แจ มาร่วมทีม เพราะแม้ วาราน  จะทำผลงานเยี่ยม แต่ก็มีอาการบาดเจ็บรบกวนบ่อยครั้ง แถมฤดูกาลหน้าทีมคงต้องเล่นหลายถ้วยด้วย หลังน่าจะมีโอกาสไปลุย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

มิน-แจ เป็นกองหลังที่ถนัดเท้าขวา แต่ ลูชาโน่ สปัลเล็ตติ กุนซือ นาโปลี ให้ยืนเป็นเซนเตอร์แบ็กฝั่งซ้ายเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม เทน ฮาก น่าจะใช้เขาเป็นเซนเตอร์แบ็กฝั่งขวาหากคว้าตัวมาร่วมทีมได้สำเร็จ

หาก “ปีศาจแดง” มีสี่เซนเตอร์แบ็กทั้ง วาราน, มาร์ตีเนซ, มิน-แจ และ ลินเดอเลิฟ จะเป็นแนวรับที่ยอดเยี่ยมสามารถช่วยให้ทีมมีความแข็งแกร่ง และได้ลุ้นแชมป์อย่างเต็มตัวแน่นอน

แนะนำข่าวกีฬาเพิ่มเติม : ปืนกระบอกแตก “อาร์เซนอล” พ่าย “ไบรจ์ตัน” คาบ้าน จ่อหมดลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก

ปืนกระบอกแตก “อาร์เซนอล” พ่าย “ไบรจ์ตัน” คาบ้าน จ่อหมดลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก

ปืนกระบอกแตก “อาร์เซนอล” พ่าย “ไบรจ์ตัน” คาบ้าน จ่อหมดลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก

“ปืนใหญ่” อาร์เซนอล พลาดท่าเปิดบ้านแพ้ ไบรจ์ตัน โอกาสลุ้นแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาลนี้ริบหรี่เต็มที

การแข่งขันฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2022-23 เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 14 พ.ค. 66 คู่ที่น่าสนใจ “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล รองจ่าฝูง เปิดสนามเอมิเรตส์ สเตเดียม รับการมาเยือนของ “นกนางนวล” ไบรจ์ตัน อันดับ 8 ของตาราง

ข่าวกีฬา

ผลปรากฏว่า อาร์เซนอล แพ้ ไบรจ์ตัน ไป 0-3 โดย ไบรจ์ตัน ได้ประตูจาก ฮูลิโอ เอนซิโซ นาทีที่ 51, เดนิซ อุนดาฟ นาทีที่ 86 และ เปร์วิส เอสตูปินญาน นาทีที่ 90+6

จากผลแข่งดังกล่าวทำให้ อาร์เซนอล มี 81 คะแนนเท่าเดิม จากการลงเล่น 36 นัด ตามหลัง แมนฯ ซิตี้ 4 คะแนน แต่แข่งมากกว่า เรือใบสีฟ้า 1 เกม

แนะนำข่าวกีฬาเพิ่มเติม : กินกันไม่ลง! เชลซี เปิดบ้านเจ๊าไร้สกอร์ ฟูแล่ม 0-0

กินกันไม่ลง! เชลซี เปิดบ้านเจ๊าไร้สกอร์ ฟูแล่ม 0-0

การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2022/23 เชลซี อันดับ 10 ของตาราง เปิดสนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ ทำศึกลอนดอน ดาร์บี แมตช์ รับการมาเยือนของ ฟูแล่ม ทีมอันดับ 7

วันนี้เจ้าถิ่นใช้แผน 4-2-3-1 เอ็นโซ แฟร์นันเดซ กองกลางค่าตัวสถิติลีกอังกฤษได้ประเดิมสนามทันที แนวรุกมี ไค ฮาแวร์ตซ์ ค้ำหน้าเป้า ฮาคิม ซิเย็ค, เมสัน เมาต์ และ มีไคโล มูดริก คอยสนับสนุน ด้านทีมเยือนมาในระบบ 4-2-3-1 เช่นกัน เชา ปาลินญา ตัดเกมแดนกลาง วิลเลียน, อันเดรียส เปไรรา และ บ็อบบี้ รีด สร้างสรรค์เกม อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช ล่าตาข่าย

ข่าวกีฬา กินกันไม่ลง

ผลการแข่งขันปรากฏว่า ทั้งสองทีมพยายามเปิดเกมบุกใส่กัน แต่สุดท้ายไม่สามารถส่งลูกบอลไปกองก้นตาข่ายอีกฝั่งได้ ครบ 90 นาทีจึงเสมอกันไป 0-0

จากการแบ่งแต้มนัดนี้ ทำให้ เชลซี มีเพิ่มเป็น 30 คะแนน จาก 21 นัด ส่วน ฟูแล่ม มีเพิ่มเป็น 32 คะแนน จาก 22 นัด

ข่าวกีฬาเพิ่มเติม>>>>“อัลวาเรซ เบิ้ล – เมสซี่ ทุบสถิติ” อาร์เจนตินา ลุ้นแชมป์สมัย3ตบ โครเอเชีย ลิ่วชิงดำบอลโลก

“อัลวาเรซ เบิ้ล – เมสซี่ ทุบสถิติ” อาร์เจนตินา ลุ้นแชมป์สมัย3ตบ โครเอเชีย ลิ่วชิงดำบอลโลก

ฟ้า-ขาว” ลุ้นแชมป์สมัย 3 เกมนี้ได้ อัลวาเรซ โชว์ฟอร์มเด่นจัดสองตุง แถม เมสซี่ กดหนึ่งเม็ดทุบสถิติมากมายขึ้นมารั้งดาวซัลโวที่ 5 ประตู

พาทีมดับฝัน โครเอเชีย 3-0 ผ่านเข้าชิงชนะเลิศเป็นครั้งที่ 6 รอพบผู้ชนะระหว่าง ฝรั่งเศส หรือ โมร็อกโก ในวันอาทิตย์ที่ 18 ธ.ค นี้ ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบรองชนะเลิศ คืนวันอังคารที่ผ่านมา

สนาม : ลูเซล ไอคอนิค สเตเดี้ยม

อาร์เจนตินา ของเทรนเนอร์ ลิโอเนล สกาโลนี่ พาทีมผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศด้วยการชนะ เนเธอร์แลนด์ ไปได้ในช่วงดวลลูกโทษ 4-3 ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย หลังเสมอกัน 120 นาที 2-2

ทางด้าน โครเอเชีย ของเทรนเนอร์ ซลัตโก้ ดาลิช พาทีมตบเต็งหนึ่งอย่าง บราซิล มาได้ในรอบ 8 ทีม ด้วยการเอาชนะช่วงดวลลูกโทษไป 4-2 หลังเสมอกันใน 120 นาที 1-1

เปิดฉากครึ่งแรก 20 นาทีรูปเกมอึดอัดระวังตัวด้วยกันทั้งคู่โดยเป็น “ตาหมากรุก” ทำได้ดีกว่าครองบอลบุกกดดันได้ลุ้นจบสกอร์จาก เดยัน ลอฟเรน ลอยมาโขกในเขตโทษเหินข้ามคาน

5 นาทีต่อมา “ฟ้า-ขาว” ทักทายบ้างจากจังหวะของ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ เก็บบอลหน้าเขตโทษตั้งป้อมปั่นด้วยขวาแหวกบล็อคโค้งหาโคนเสาแต่ยังไม่ผ่าน โดมินิค ลีวาโควิช ตะปปได้ทัน

ข่าวกีฬาวันนี้ เรตติ้ง

30 นาทีผ่าน โครเอเชีย ที่ครองบอลบุกกัดดันแต่โอกาสจบสกอร์ไม่เฉียบคม อีวาน เปริชิช รับบอลทางซ้ายจี้เข้าเขตโทษโยกเข้าในเลือกยกข้ามหัว เอมิเลียโน่ มาร์ตีเนซ เหินข้ามคานน่าผิดหวัง

แต่แล้วนาทีที่ 32 อาร์เจนตินา ทะยานออกนำ 1-0 ฮูเลียน อัลวาเรซ หลุดกับดักล้ำหน้าสอดเข้าเขตโทษยกข้าม โดมินิค ลีวาโควิช ก่อนโดนรวบร่วงลงไป ผู้ตัดสิน ไม่รอช้าชี้เป็นจุดโทษทันที ลีโอเนล เมสซี่ สังหารตุงตาข่าย

7 นาทีต่อมา “ฟ้า-ขาว” หนีห่างเป็น 2-0 ฮูเลียน อัลวาเรซ โชว์ลีลาแหวกมาเองจากครึ่งสนามแตะเข้าเขตโทษบอลเป็นใจแฉลบแนวรับ โครเอเชีย ลอยเข้าทาง บอร์น่า โซซ่า สกัดไม่ขาดถวายพานให้ อัลวาเรซ เก็บงานไม่พลาด

นาทีที่ 42 อาร์เจนตินา หวิดบวกสกอร์เพิ่มจากจังหวะเตะมุมทางซ้ายบอลโค้งมาเข้าหัว อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตร์ โฉบมาขวิดเปลี่ยนทางที่เสาแรกติดเซฟ โดมินิค ลีวาโควิช ควักทิ้งออกมาจากบนเส้น

หมดครึ่งเวลาแรก อาร์เจนตินา 2 โครเอเชีย 0

เริ่มครึ่งหลัง “ฟ้า-ขาว” ออกหมัดก่อน เลอันโดร ปาเรเดส ขยับมาเชื่อมบอลลองซัดไกลระยะร่วม 30 หลาแต่น้ำหนักไม่พอกระดอนพื้นตรงตัว โดมินิค ลีวาโควิช รับเอาไว้ได้

นาทีที่ 58 เป็นลูกประสานงานสุดสวย เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ แปะชิ่งเร็วคืนให้ ลีโอเนล เมสซี่ หลุดเข้ามาล่อเป้าหน้ากรอบ 6 หลาฝั่งซ้ายก้มหน้าหวดยัดเสาแรกติดเซฟ โดมินิค ลีวาโควิช

5 นาทีต่อมา โครเอเชีย พยายามหาประตูปลุกความหวังเป็นลูกฟรีคิกทางริมเส้นฝั่งซ้าย ลูก้า โมดริช หยอดเข้าเขตโทษข้ามมาเสาไกลถึง เดยัน ลอฟเรน โขกแฉลบลอยไปหา เอมิเลียโน่ มาร์ตีเนซ ชกทิ้งออกมา

ต่อมานาทีที่ 69 “ฟ้า-ขาว” ขยับยำ 3-0 ตามคาดจากความสุดยอดของ ลีโอเนล เมสซี่ หนีขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งขวาเผาเครื่อง ยอชโก้ กวาร์ดิโอล หมุนเข้าเขตโทษก่อนหักข้อให้ ฮูเลียน อัลวาเรซ ชาร์จเข้าไปไม่เหลือ

“ตาหมากรุก” เร่งเครื่องสวนคืนบ้างมาซัดตรงกรอบครั้งแรกจากฟรีคิกหน้าเขตโทษฝั่งขวา อีวาน เปริชิช วิ่งมาอัดด้วยซ้ายแหวกบล็อคแต่ก็ยังเบาเข้ามือ เอมิเลียโน่ มาร์ตีเนซ

ท้ายเกมนาทีที่ 83 อาร์เจนตินา พลาดปิดกล่อง เปาโล ดีบาล่า ตัวสำรองเก็บบอลหน้ากรอบ 18 หลายกเข้าเขตโทษให้ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตร์ ล้มตัวหวดตามน้ำหลุดเสาแรกออกหลัง

หลังจากนั้นไม่มีสกอร์เพิ่ม จบเกม อาร์เจนตินา 3 โครเอเชีย 0

รายชื่อนักเตะที่ลงสนาม

อาร์เจนตินา (4-4-2) : เอมิเลียโน่ มาร์ตีเนซ – นาอูเอล โมลิน่า (ฆวน ฟอยต์ น.86), คริสเตียน โรเมโร่, นิโกลัส โอตาเมนดี้, นิโกลัส ตาญาฟีโก้ – โรดริโก้ เดอ ปอล (เอกเซกิเอล ปาลาซิโอส น.74), เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ, เลอันโดร ปาเรเดส (ลิซานโดร มาร์ติเนซ น.62), อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตร์ (อังเคล กอร์เรอา น.86) – ลีโอเนล เมสซี่, ฮูเลียน อัลวาเรซ (เปาโล ดีบาล่า น.74)

โครเอเชีย (4-1-2-3) : โดมินิค ลีวาโควิช – โยซิป ยูราโนวิช, เดยัน ลอฟเรน, ยอชโก้ กวาร์ดิโอล, บอร์น่า โซซ่า (มิสลาฟ ออร์ชิช น.46) – มาร์เซโล่ โบรโซวิช (บรูโน่ เพทโควิช น.50) – ลูก้า โมดริช (โลวโร มาเยอร์ น.81), มาเตโอ โควาชิช – มาริโอ ปาซาลิช (นิโกล่า วลาซิช น.46), อันเดรย์ ครามาริช (มาร์โก ลิวายา น.72), อีวาน เปริชิช

ผู้ตัดสิน : ดานิเอเล่ ออร์ซาโต้ (อิตาลี)

ข่าวแนะนำ : KFC ออกแถลงขอโทษเอ็มบัปเป้และทีมชาติฝรั่งเศส เหตุผู้บริหารขู่ถอนสปอนเซอร์